นักวิจัยจากสวีเดนทำการสัมภาษณ์ผู้หญิง 1,350 คนในช่วงปลายทศวรรษ 1960 ว่าพวกเขามีปัญหาเครียดในช่วงห้าปีที่ผ่านมาหรือไม่ จากนั้นทำการศึกษาต่ออีก 24 ปี และพบว่าผู้หญิงที่มีความเครียดมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมสูงกว่ากลุ่มที่ไม่เครียดถึง 2 เท่า
ความเครียดกับมะเร็งเต้านมเกี่ยวข้องกันอย่างไร?
นักวิจัยจากสวีเดนเสนอผลการศึกษา ที่การสัมมนาโรคมะเร็งยุโรป ที่โคเปนเฮเกนว่า การศึกษาของพวกเขาชี้ให้เห็นความเชื่อมโยงที่มีนัยยะสำคัญ แม้จะไม่อาจระบุระดับความเครียดที่จะทำให้ความเสี่ยงโรคมะเร็งสูงขึ้นได้ นอกจากนี้การศึกษาของพวกเขายังต่างกับการศึกษาชิ้นอื่น ๆ ก่อนหน้า ที่ทำการสอบถามผู้หญิงที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านมแล้ว ว่าก่อนที่จะป่วยพวกเขามีอาการเครียดหรือไม่ เพราะการสอบถามเช่นนั้นอาจมีความผิดพลาดเนื่องจากการหลงลืมของผู้ป่วยได้
ในการศึกษาล่าสุดนี้ นักวิจัยสัมภาษณ์และตรวจร่างกายผู้หญิงอายุระหว่าง 38-60 ปี ในปี 1968 หรือ 1969 โดยถามพวกเขาว่ามีความเครียด หวาดกลัว กลุ้มใจ หรือนอนไม่หลับอันเนื่องมาจากปัญหาครอบครัวหรือหน้าที่การงาน เป็นเวลาเดือนหนึ่งหรือกว่านั้นในช่วงห้าปีก่อนหน้าหรือไม่

จากนั้นนักวิจัยทำการตรวจร่างกายพวกเขาอีกในอีก 5 ปี 12 ปี และ 24 ปีให้หลัง พบว่าในบรรดาผู้หญิง 456 คนที่ระบุว่ามีความเครียด มีคนที่เป็นมะเร็งเต้านมจำนวน 24 คน (5.3%) ขณะที่มีผู้ป่วยมะเร็งเต้านมเพียง 23 คน ในจำนวนผู้หญิง 894 คนที่ไม่มีความเครียด
เนื่องจากกลุ่มอาสาสมัครส่วนใหญ่ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมเมื่ออายุประมาณ 60 ปี นักวิจัยจึงสรุปว่าความเครียดไม่ได้ทำให้ผู้หญิงเป็นมะเร็งเต้านมเร็วขึ้น นักวิจัยระบุว่าการศึกษานี้ได้พิจารณาปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ประกอบด้วย ทั้งการดื่มเหล้า น้ำหนักตัว ประวัติโรคมะเร็งเต้านมในครอบครัว การสูบบุหรี่ และการมีลูก
ความเชื่อที่ว่า ความเครียดมีส่วนสัมพันธ์กับมะเร็งเต้านมมีมานานแล้ว นักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่า ความเครียดส่งผลให้เกิดความผิดปกติในระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ฮอร์โมนในเต้านมเกิดการเปลี่ยนแปลง